Movie Review and Storyline: White Boy Rick (2018)
Movie Review and Storyline: White Boy Rick (2018)
Blog Article
รีวิวหนัง White Boy Rick (2018) ริค จอมทรหด
ข้อมูลหนัง
ประเภทหนัง: อาชญากรรม และดรามา
ผู้กำกับ: Yann Demange
นักเขียน: Andy Weiss, Logan Miller และ Noah Miller
นักแสดงนำ: Matthew McConaughey, Richie Merritt และ Bel Powley
เรื่องย่อ
White Boy Rick (2018) ริค จอมทรหด กล่าวถึงเรื่องราวในปี 1984 เมืองดีทรอยต์อยู่ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสงครามยาเสพติดที่รุนแรง ริค เวอร์เช่ พ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวที่แตกสลาย ดอว์น ลูกสาวของเขาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ได้หนีออกจากบ้าน ทิ้งให้ริคต้องอยู่กับริกกี้ ลูกชายเพียงลำพัง ทั้งคู่พยายามหาทางเอาชีวิตรอดในสังคมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและอาชญากรรม ริกกี้ ซึ่งพยายามช่วยเหลือพ่อ กลับเลือกเส้นทางที่เสี่ยงต่อชีวิต เขาผลิตชิ้นส่วนปืนและขายปืนผิดกฎหมายเพื่อหาเลี้ยงชีพ หนึ่งในลูกค้าของเขาคือจอห์นนี่ เคอร์รี่ หัวหน้าอันธพาลที่ทรงอิทธิพลในพื้นที่ ริกกี้กลายเป็นคนสนิทกับบู น้องชายของจอห์นนี่ ความสัมพันธ์นี้ทำให้จอห์นนี่และลูกน้องไว้วางใจในตัวเขา แต่กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้พ้นสายตาของเอฟบีไอ
เอฟบีไอที่นำโดยเจ้าหน้าที่อเล็กซ์ สไนเดอร์ และแฟรงค์ เบิร์ด มองว่าริกกี้เป็นทรัพย์สินล้ำค่าที่สามารถช่วยให้พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายอาชญากรรมใต้ดินได้ ทั้งสองโน้มน้าวให้ริกกี้ทำงานเป็นสายลับให้พวกเขา โดยแลกกับเงินและคำสัญญาว่าจะคุ้มครองพ่อของเขา ริกกี้ต้องแกล้งทำตัวเป็นผู้ค้ายาเสพติดเพื่อรักษาภาพลักษณ์และสร้างความน่าเชื่อถือในหมู่เครือข่ายอาชญากร แต่ชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความฟุ่มเฟือยนี้ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างเขาและพ่อ ในค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่ริกกี้และดอว์นพบกัน รถของปู่ของเขาถูกขโมยไป ทั้งคู่ตัดสินใจไล่ล่าและยิงใส่รถที่หลบหนี ซึ่งนำไปสู่การจับกุม แต่คนดูแลของริกกี้ได้ประกันตัวเขาออกมา เหตุการณ์นี้ทำให้จอห์นนี่เริ่มสงสัยในตัวริกกี้ ดูหนังเกาหลี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่
ความรุนแรงยังคงทวีความรุนแรงขึ้น หลังงานปาร์ตี้ในลาสเวกัส จอห์นนี่โจมตีคู่แข่งด้วยความโหดเหี้ยม และในเวลาต่อมาได้ก่อเหตุยิงบ้านของคู่แข่งจนทำให้เด็กชายคนหนึ่งเสียชีวิต ริกกี้รู้สึกผิดและทราบว่าปืนที่ใช้คือปืนที่เขาขายให้จอห์นนี่ ความรู้สึกผิดนี้ทำให้เขาเริ่มทบทวนตัวเองและพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพ่อ แต่ไม่นานนัก ความสงสัยของจอห์นนี่นำไปสู่การลอบยิงริกกี้จนได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน เอฟบีไอใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อบุกจับกุมเครือข่ายของจอห์นนี่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างริกกี้และเอฟบีไอกลับไม่ราบรื่น เมื่อพวกเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับข้อตกลงที่เคยให้ไว้กับเขา
ปี 1986 ชีวิตของริกกี้เปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อเขาพบว่ามีลูกสาวชื่อเคอิชา เขาและพ่อได้พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของเด็กหญิง ซึ่งช่วยสร้างสายสัมพันธ์ใหม่ในครอบครัว แต่ดอว์นยังคงติดอยู่ในวังวนของยาเสพติด ริกกี้และพ่อจึงช่วยพาเธอกลับบ้านเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัด แม้จะพยายามเริ่มต้นใหม่ แต่ในที่สุด ริกกี้กลับไปค้ายาเสพติดอีกครั้ง และกลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของจอห์นนี่ รวมถึงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแคธี่ ภรรยาของเขา ในที่สุด ริกกี้ถูกจับกุมในข้อหาค้ายาเสพติด เอฟบีไอซึ่งเคยใช้เขากลับปฏิเสธความสัมพันธ์และเสนอให้ลดโทษหากเขาช่วยในการจับกุมครั้งสุดท้าย ริกกี้พยายามหลบหนีชะตากรรมนี้ แต่ถูกจับได้และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในปี 2017 หลังจากติดคุกมากกว่า 30 ปี ริกกี้ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด แม้จะสูญเสียพ่อในปี 2014 แต่เขาได้เห็นลูกสาวมีชีวิตที่มีความสุขพร้อมครอบครัวใหม่ ขณะที่เสียงของริกกี้ เวอร์เช่ จูเนียร์ ตัวจริงเล่าให้ฟังถึงบทเรียนชีวิตและความหวังที่เขามีต่ออนาคต ท่ามกลางความสูญเสียและความผิดพลาดที่ผ่านมา
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตในปีนี้เต็มไปด้วยภาพยนตร์ที่มีคำโปรยว่า อิงจากเรื่องจริง ซึ่งส่วนใหญ่สำรวจชีวิตของเหล่าอาชญากรในรูปแบบต่างๆ ภาพยนตร์อาร์เจนตินาเรื่อง El Angel ถ่ายทอดเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องวัยรุ่น ขณะที่ Can You Ever Forgive Me? บอกเล่าชีวิตของนักเขียนที่เปลี่ยนเส้นทางไปเป็นนักปลอมแปลงเอกสาร และ White Boy Rick เรื่องราวของวัยรุ่นที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ไม่รุนแรง ซึ่งภาพยนตร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจด้วยพล็อตที่เข้มข้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของชีวิตในสังคมที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม
สำหรับ White Boy Rick (2018) ริค จอมทรหด ซึ่งกำกับโดย Yann Demange นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งของ Richard Wershe Jr. หรือ White Boy Rick (รับบทโดย Richie Merritt) ที่เริ่มต้นชีวิตวัยรุ่นในฐานะเด็กหนุ่มวัย 14 ปีที่เติบโตมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ในดีทรอยต์ แม่ของเขาทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เขายังเด็ก ทิ้งให้ Rick Wershe Sr. (Matthew McConaughey) ผู้เป็นพ่อ ต้องดิ้นรนเลี้ยงดูลูกชายและลูกสาวอย่างดอว์น (Bel Powley) โดยมีรายได้จากการค้าขายปืนอย่างผิดกฎหมาย ชีวิตในครอบครัวที่ย่ำแย่ ผลักดันให้ดอว์นกลายเป็นผู้ติดยาเสพติด และออกจากบ้านไปพร้อมแฟนหนุ่ม ส่วนริกกลายเป็นเด็กที่ต้องแบกรับความฝันอันเลือนลางของพ่อ รวมถึงความท้าทายในการเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตราย
เมื่อริกถูกเกณฑ์โดย FBI ให้กลายเป็นสายลับเพื่อแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายยาเสพติดในดีทรอยต์ เขาเริ่มต้นชีวิตที่เต็มไปด้วยรายได้และความหรูหราที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่มันก็มาพร้อมกับราคาที่เขาไม่คาดคิด ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของริกนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขามีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย รอดชีวิตจากการถูกยิง และสร้างรายได้มหาศาลจากการค้าโคเคน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะอายุถึงเกณฑ์ลงคะแนนเสียงหรือแม้แต่ถูกตัดสินคดีในฐานะผู้ใหญ่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดความดราม่าของครอบครัวและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจผิดพลาดของริก เมอร์ริตต์ในบทริกทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา แต่ถูกบังคับให้เติบโตอย่างรวดเร็วในโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย การแสดงของเขาเผยให้เห็นถึงความเปราะบางและความมุ่งมั่นที่จะช่วยครอบครัว แม้ว่ามันจะนำพาเขาไปสู่เส้นทางที่เสี่ยงอันตรายและผิดกฎหมาย
นักแสดงร่วมอย่าง McConaughey และ Powley ต่างแสดงได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในฉากที่ริกและพ่อช่วยกันพาดอว์นที่กำลังเสพติดยาออกจากบ้านโทรมๆ ของเธอ ฉากนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เปราะบางและความเจ็บปวดที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ การกำกับภาพโดย Tat Radcliffe ช่วยสร้างบรรยากาศที่มืดมนและเศร้าหมอง โดยใช้แสงฟลูออเรสเซนต์ที่ไม่สมบูรณ์และไฟถนนที่ริบหรี่ เพื่อสะท้อนโลกที่ริกต้องใช้ชีวิตอยู่ แม้ว่า White Boy Rick จะนำเสนอเรื่องราวที่มีความดราม่าเข้มข้น แต่ภาพยนตร์ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีที่มันมองข้ามความเป็นมนุษย์ของตัวละครผิวสีที่อยู่รายล้อมริก เรื่องราวของริกแม้จะน่าสนใจ แต่ก็มีลักษณะคล้ายกับมุมมองของคนนอกที่มองเข้ามาในชุมชนคนผิวสี โดยเฉพาะในดีทรอยต์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรคนผิวสีส่วนใหญ่ นี่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเรื่องราวของริกถูกนำเสนอในฐานะเรื่อง พิเศษ หรือ แปลกใหม่ เมื่อเทียบกับชีวิตของผู้คนในละแวกเดียวกันที่ประสบชะตากรรมคล้ายกัน
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับความอยุติธรรมในระบบกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายการลงโทษขั้นต่ำสำหรับความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ไม่รุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างไม่สมส่วนต่อคนผิวสีและผิวน้ำตาลในสหรัฐอเมริกา การที่เรื่องราวของริก ซึ่งเป็นคนผิวขาว ถูกหยิบยกขึ้นมาบอกเล่าในวัฒนธรรมกระแสหลัก ทำให้เกิดคำถามว่ามันได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษหรือไม่ ในท้ายที่สุด White Boy Rick นำเสนอเรื่องราวที่ทั้งสะเทือนใจและยากจะลืมเลือน โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงให้เห็นว่า ริกเป็นเพียงหนึ่งในผู้คนหลายล้านคนที่ต้องสูญเสียชีวิตในช่วงเวลาสำคัญไปเพราะความอยุติธรรมของระบบกฎหมาย แม้จะมีข้อบกพร่องในบางแง่มุม แต่ภาพยนตร์ก็ทำให้เราได้มองลึกลงไปในโครงสร้างของสังคมที่หล่อหลอมชีวิตของชายหนุ่มคนหนึ่ง และบทเรียนที่ต้องจ่ายในราคาที่แสนแพง ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.
#WhiteBoyRick #ริคจอมทรหด #mvhd24 #รีวิวหนัง #MovieReview #MovieSpoilers
กลับด้านบน Report this page